ความคิด ความเชื่อ และความเพียรพยายาม เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ

กฎข้อที่ 1 คิดเช่นไร ชีวิตก็เป็นเช่นนั้น
เมื่อใดก็ตาม ที่คุณมีความเข้าใจพลังอำนาจของความคิดแล้ว คุณก็สามารถที่จะบรรลุซึ่งความสำเร็จใจสิ่งที่คุณปรารถนาได้ เครื่องมือความคิดอันเยี่ยมยอดประการหนึ่งคือจินตนาการ ขอให้ติดตามอ่านบทความของผมต่อไป คุณจะตื่นเต้นดีใจที่พบว่าชีวิตของตนเองมีการเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมหัศจรรย์
ขณะที่คุณอ่านด้วยความเข้าใจถึงแนวคิดนี้ คุณจะเห็นประโยชน์ที่จะได้รับและจะพบว่าตนเองกำลังก้าวเข้าสู่วิถีทางแห่งชีวิตใหม่ที่มีความเชื่อในพลังจิตที่มีอยู่ในตัวเองมากยิ่งขึ้น การอ่านเพียงครั้งเดียวอาจจะยังไม่พอคุณต้องอ่านซ้ำๆ แล้วพลังอำนาจแห่งความคิดนี้จะซึมซับเข้าสู่จิตใต้สำนึกของคุณ จะช่วยคุณให้เรียนรู้ในสิ่งใดๆ ได้เร็วขึ้น
ด้วยความตั้งใจของผม อยากให้คุณได้รับความรู้นี้เพื่อพัฒนาศักยภาพชีวิตของคุณเข้าสู่ระดับสูงขึ้นเกินกว่าที่คุณคิดว่าจะเป็นไปได้เมื่ออ่านอย่างตั้งใจอยากรู้ อยากมีความเข้าใจอย่างแท้จริงแล้ว คุณจะรู้สึกอย่างเป็นธรรมชาติ คล้ายกับว่าประตูจิตของคุณเปิด ทำให้เกิดความคิดความเข้าใจ สามารถที่จะนำความรู้นี้มาใช้เป็นประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นต่อไป
กฎของความคิดข้อที่ 1
ภาพของความคิดหรือจิตนาการที่คุณสร้างขึ้นนั้น จะถูกนำเข้ามาเก็บไว้ในจิตใต้สำนึกของคุณมีแนวโน้มที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้จริงจังที่คุณปรารถนา
ตามกฎข้อที่ 1 นี้คุณจะต้องกำหนดจิตคิดถึงสิ่งที่คุณต้องการ ด้วยความเชื่อมั่นว่าความตั้งใจของคุณนั้นเป็นเหมือนพลังงานของแสงเลเซอร์ พึงระลึกอยู่เสมอว่า ถ้าคุณปล่อยให้จินตภาพในเชิงลบเข้าสู่จิตใต้สำนึกของคุณแล้วก็จะทำให้คุณได้รับจินตภาพทางด้านลบนั้นเข้าสู่ชีวิตคุณด้วย ข้อความประโยคนี้อาจจะดูผิวเผินเหมือนเป็นการให้แง่คิดธรรมดาๆ แต่ถ้าคุณลองมองทบทวนตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาของคุณจะพบว่าความเป็นไปของชีวิตล้วนดำเนินไปตามจินตภาพแห่งความคิดของคุณทั้งสิ้น ดังที่คุณได้สะสมจินตภาพนั้นมาเป็นแรมปี
" จงคอยเฝ้าระมัดระวังตามกฎที่ 1 นี้ ไม่ปล่อยให้จินตภาพในเชิงลบเข้ามาสู่จิตใต้สำนึกของคุณได้ "
ดังนั้นในการดำรงชีวิตของคุณทุกวันนี้ คุณควรสร้างจินตนาการและเก็บภาพแห่งจินตนาการของคุณไว้ในลักษณะสร้างสรรค์หรือเป็นเชิงบวกเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นภาพแห่งความคิดที่อยากมี อยากเป็น อยากได้ อะไรก็แล้วแต่ พึงระลึกว่า ให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์เท่านั้น
กุญแจดอกนี้ก็คือ “การกำหนดจินตภาพของความคิด” กำหนดจิตคิดว่า คุณต้องการอะไร จิตของคุณมุ่งเดินทางไปทิศไหน สมมุติว่า คุณต้องการที่จะมีงานดี รายได้ดี ให้มีเงินมากขึ้น หากขณะเดียวกันคุณก็คอยแต่คิดว่า คุณไม่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้ ภาพแห่งความคิดของคุณก็จะกระทำให้คุณเป็นไปดังที่คุณคิด
มีวิธีที่มั่นใจได้มากที่สุดวิธีหนึ่งคือ “การยืนยันอย่างแน่ใจ” โดยคุณโปรแกรมภาพของจินตนาการ ในสิ่งที่คุณปรารถนา ไม่ใช่จินตนาการในสิ่งที่คุณไม่ได้ปรารถนา
เมื่อคุณได้รับรู้จินตภาพของคุณและนำเข้ามาเก็บไว้ในจิตใต้สำนึกแล้ว คุณก็จะเรียนรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงภาพนั้นให้เกิดประโยชน์และลบล้างจินตภาพในเชิงลบให้ออกไปจากจิตใต้สำนึกจนหมดสิ้น
สำหรับผมเองนั้น ใช้ “เทคนิคปิดกั้น” เมื่อมีความคิดใดที่ไม่ต้องการเข้ามาในจิตสำนึกผมจะพุดกับตนเองว่า “จงปิดกั้น” สร้างจินตภาพเป็นกำแพงสูงใหญ่กั้นไว้ข้างหน้า จินตภาพในเชิงลบไม่สามารถผ่านเข้ามาในจิตสำนึกไปสู่จิตใต้สำนึกได้
จงจำและคิดอยู่เสมอว่า ความคิดของคุณนั้น ก่อให้เกิดความเป็นจริงกับชีวิตของตนเองได้ โดยที่คุณก็สามารถควบคุมกำกับความคิดได้ตลอดเวลา แต่คุณต้องรับผิดชอบความคิดต่างๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาในดวงจิตของคุณ ดังนั้นจงแน่ใจว่า จิตใต้สำนึกของคุณเก็บไว้แต่เฉพาะความคิดที่ดีเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ ความเจริญ ความสำเร็จ ความสุข และสันติสุขให้แก่ตนเอง ครอบครัวและประเทศชาติอันเป็นที่รักของเรา
กฎของความคิดประการที่ 2
ภายในจิต ไม่ควรจะคิดต่อต้านต่อจินตภาพที่คุณปรารถนาจะให้ประสบความสำเร็จ
พึงจำและคิดรู้อยู่เสมอว่า พลังอำนาจของความคิด เป็นเหมือนดาบสองคม สามารถตัดได้ทั้งสองข้าง สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้และมีความแน่ใจว่า เมื่อเกิดความคิดในจิตใจ ให้ความคิดนั้นเป็นความคิดที่สะอาดบริสุทธิ์ ไม่ใช่เป็นความคิดสองจิตสองใจ ตัวอย่างเช่น คุณคิดที่จะย้ายไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ แต่มีความคิดอีกด้านหนึ่งว่าคุณไม่สามารถขายบ้านหลังเก่าได้
เมื่อมีความคิดเกิดขึ้นเป็นสองแง่สองด้านเช่นนั้น เป็นทำให้บ้านเก่าขายไม่ได้ เพราะคิดว่าจะขายบ้านเก่าไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ การที่จะมีบ้านใหม่และย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ก็ไม่ได้ด้วยเช่นกัน ดังเช่น กฎความคิดข้อที่ 1 ความคิดเริ่มแรกหรือจินตภาพที่กำหนดขึ้นนั้นไม่ทำงาน ไม่ก่อให้เกิดผลตามที่คาดหวัง
เพราะฉะนั้นคุณจะต้องพยายามสร้างจินตภาพนั้นให้แจ่มชัดให้เห็นชัดเจนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกแง่หนึ่งก็คือ อย่าคิดจินตภาพด้านที่สอง ให้เป็นจินตภาพด้านต่อต้านหรือด้านลบต่อสิงที่ปรารถนาอยากจะมีอยากจะได้ แม้ว่าความคิดดังกล่าวนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องเข้าใจ วิธีสั่งจิตใต้สำนึกของคุณให้มีพลังอำนาจได้มากพอที่จะควบคุมจิตสำนึกให้เชื่อง และจิตใต้สำนึกเองก็มีความมั่นคงต่อความคิดด้านบวกอยู่เสมอไปไม่ออกนอกลู่นอกทางไปด้านลบได้
เมื่อคุณได้ศึกษาถึงพลังความคิดจะช่วยให้เกิดความคิดความเข้าใจถึงพลังอำนาจและวิธีการควบคุมได้ทั้งจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก ด้วยความพยายามให้เป็นไปในทางบวก ด้านสร้างสรรค์อย่างประสบความสำเร็จด้วยพลังอำนาจของความคิด พลังอำนาจของจิต
ตามกฎของความคิดประการที่ 3
ถ้าความตั้งใจและความเชื่อมั่นเป็นไปตามความคิด ความรู้สึกและอารมณ์ที่สอดคล้องต้องกัน ความตั้งใจด้วยความเชื่อมั่นนั้น ย่อมประสบความสำเร็จ
ความตั้งใจ คือ ความคิดที่มุ่งจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ส่วนความเชื่อมั่น คือ ความเชื่อมั่นในสิ่งที่ปรารถนาว่าจะต้องได้ ต้องมี ต้องประสบความสำเร็จ อย่างแน่นอน ความเชื่อเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง เป็นตัวกระตุ้นสนับสนุนให้สิ่งที่คิด และสิ่งที่ทำนั้นประสบความสำเร็จได้
แต่มีเส้นด้ายบางๆ ที่อยู่ระหว่างความตั้งใจกับความเชื่อ ในบางกรณีมีลักษณะเหมือนๆ กันทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เป็นไปตามรูปแบบทั้งหมดของการควบคุม คุณต้องสามารถควบคุมความตั้งใจ โดยมีความเชื่อรวมอยู่ด้วย
กุญแจสู่ความสำเร็จ คือ พลังของความคิดที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น ตามความเป็นจริงแล้วมันเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะควบคุมความคิด กุญแจอีกดอกหนึ่งที่จะเริ่มก็คือ ความเชื่อในสิ่งที่คุณกำลังทำ และแล้วเจ้าตัวความเชื่อจะเริ่มปรากฏให้เห็นหลักฐานในสิ่งที่คุณกำลังทำ อันเป็นตัวเสริมให้เกิดความมั่นใจที่มั่นคงยิ่งขึ้น
มีคำกล่าวยืนยันให้เห็นว่าความเชื่อนั้นมีความสำคัญมากเพียงไรในหนังสือคำสอนที่ศักดิ์สิทธิ์ว่า “ถ้าคุณมีความเชื่อเพียงเท่าเมล็ดพันธ์ผักกาด คุณก็สามารถจะเคลื่อนภูเขาลงทะเลได้” “ความเชื่อคือการยอมรับในสิ่งที่มองไม่เห็นว่ามีจริง” เมื่อมีความเชื่อต่อสิ่งที่ตนเรียนรู้อย่างมีเหตุผล มีหลักฐานจากผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อนบอกเล่า และผู้ที่มีประสบการณ์ สามารถชี้แนะหรือแนะนำวิธีการฝึกปฏิบัติ ให้สัมผัสความรู้สึกและได้เห็นอาการของความรู้สึก ปรากฏออกมาให้เห็นทางร่างกายเป็นหลักฐาน ยิ่งส่งเสริมให้มีความเชื่อ ความศรัทธามากยิ่งขึ้น นั่นหมายถึง การช่วยให้พลังอำนาจของความคิดนั้นประสบความสำเร็จตามเป้าหมายดังที่ตนปรารถนาได้
ตามกฎของความคิด ประการที่ 4
ความพยายามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ก่อให้เกิดผลต่อความหวังในทางกลับกัน
กฎข้อนี้หมายถึงหลักการสำคัญที่มีต่อความเชื่อของคุณ เป็นบทบาทอันประกอบด้วยความมุ่งหวังที่จะให้บรรลุความสำเร็จด้วยพลังจิต พลังความคิด ถ้าระดับความเชื่อต่อสิ่งที่คุณคาดหวังว่าจะให้บรรลุถึงความสำเร็จนั้นต่ำ แม้ว่าจะมีความเพียรพยายามมากเพียงไรก็ตาม ก็เป็นการสูญเปล่าไร้ผล
คุณต้องเรียนรู้วิธีสร้างความเชื่อให้มีมากขึ้นและเข้มแข็งขึ้น ถ้าคุณสนับสนุนความเพียรพยายามด้วยความเชื่อ ผลลัพธ์ที่ออกมาย่อมเป็นที่พึงพอใจได้อย่างแน่นอน คุณจะต้องหัดฝึกจิตให้ยอมรับในสิ่งที่คุณต้องการ ในสิ่งที่อยากได้ อยากมี อยากเป็น รวมถึงสิ่งที่คุณปรารถนา ด้วยความเชื่อ
เมื่อได้ฝึกสร้างนิสัยแห่งความเชื่อ โดยการยอมรับนิสัยแห่งความเชื่อในสิ่งที่ต้องการนั้น ก็จะเปลี่ยนแปลงก่อให้เกิดเป็นความจริงได้ในที่สุด เมื่อคุณมีระดับของความเชื่อที่สูงขึ้นแล้ว คุณเริ่มใช้ความเพียรพยายามของคุณ มุ่งมั่นทำอย่างมั่นใจต่อเนื่องโดยไม่หยุด คุณก็จะประสบความสำเร็จได้ดังที่คุณปรารถนา “ความเชื่อที่ปราศจากการกระทำเป็นความเชื่อที่ตายแล้ว” นั่นหมายความว่า คุณสามารถที่จะมีความศรัทธาหรือความเชื่อที่มากเพียงพอ แต่ไม่มีการกระทำตอบสนองต่อความเชื่อของคุณ ทุกสิ่งที่คุณเชื่อว่าจะได้รับก็เป็นศูนย์ พึงคำนึงถึงกฎเหล่านี้ แล้วเริ่มนำมาใช้กับชีวิตของคุณเสียตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป...
โดย อ. ดร. บุญเลิศ สายสนิท A.M.D., M.H.A., N.L.P., C.Ht
ผู้เชี่ยวชาญการสั่งจิตบำบัดทางการแพทย์และทันตกรรมนานาชาติ-USA
ศูนย์ค้นคว้าและฝึกอบรมพลังจิตใต้สำนึก
hypnoticquality.com