จิตสำนึก (Conscious)และ จิตใต้สำนึก (Subconscious) มีความสัมพันธ์กันอย่างไร?

จิตสำนึกและจิตใต้สำนึก มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดเป็นที่สุดเพราะจิตทั้งสองนี้ ต่างก็อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน ที่เรียกว่า “สมอง” ต่างกันตรงที่การทำงานหรือการทำหน้าที่ที่ต่างกันเท่านั้น จิตสำนึกเปรียบได้ดังเครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์ เมื่อพบข้อมูลอะไรที่ชอบและมีความพึงพอใจในข้อมูลนั้น ก็ลงมือพิมพ์เข้าไปในคอมพิวเตอร์ทันที บางทีข้อมูลที่พิมพ์ลงไปนั้นจีมีทั้งด้านบวกและด้านลบ ทั้งด้านดีและด้านเลวหรือด้านสร้างสรรค์และด้านทำลาย
ส่วนจิตใต้สำนึกนั้นเปรียบประดุจดังฮาร์ดดิสก์ ทางสินค้า หรือโกดังที่เก็บสินค้าสิ่งของต่างๆ รวมถึงสินค้าที่มีทั้งดีและเสีย แตกรั่ว หรือบุบสลายโดยไม่ได้ที่จะเก็บเข้าไปในฮาร์ดดิสก์ ฮาร์ดดิสก์ก็บันทึกเก็บไว้ทันทีโดยปราศจากการตรวจสอบแต่ประการใด โกดัง หรือคลังสินค้าก็เช่นกันไม่มีหน้าที่คัดเลือกและตรวจสอบทำหน้าที่รับเข้าอย่างเดียวเท่านั้น จิตใต้สำนึกก็เช่นกัน ทำหน้าที่เก็บข้อมูลที่จิตสำนึกส่งผ่านเข้ามาให้เก็บจิตใต้สำนึกก็เก็บไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจิตใต้สำนึกจะคิดดีหรือร้ายให้แก่สมองและร่างกายของตน หรือคิดดีหรือร้ายกับคนในครอบครัวหรือผู้ร่วมงานหรือบุคคลในสังคม คำพูดที่กล่าวออกไปเป็นการตำหนิ ด่าว่า นินทากล่าวร้ายแก่ตนเอง หรือผู้อื่น ความรู้สึก อารมณ์ที่แสดงออกในทางที่ดี หรือที่เลว อากัปกิริยาท่าทางที่แสดงออกไปให้ผู้อื่นเห็นหรือไม่เห็นก็ตามล้วนถูกบันทึกเก็บไว้ในจิตใต้สำนึกหมดทั้งสิ้น ยังมีการคิด พูดหรือกระทำซ้ำๆ มากยิ่งขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งถูกนำเข้าไปเก็บเข้าไปเก็บไว้ในโกดังหรือจิตใต้สำนึกมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
ที่จิตใต้สำนึกเก็บความคิดคำพูดหรือการกระทำเป็นด้วนบวก เชิงสร้างสรรค์ในปริมาตรมาก สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่สร้างสรรค์ สิ่งที่เป็นคุณประโยชน์ ก็จะปรากฏออกมาทางคำพูด กิริยาท่าทางอย่างเป็นอัตโนมัติ เพียงแต่จิตใต้สำนึกคิดในใจอยากจะพูดหรือทำเท่านั้น จิตใต้สำนึกก็จะปฏิบัติการทันทีโดยแสดงคำพูด ความรู้สึก อารมณ์ อากัปกิริยาท่าทางออกมาให้ปรากฏเช่นกล่าววาจา คำพูดที่สุภาพ เว้น กริยาท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน อย่างถูกต้องต่อบุคคล ต่อสถานที่อย่างถูกกาลเทศะ ตรงกันข้าม ข้อมูลที่จิตใต้สำนึกรับเข้ามาจากจิตสำนึก ล้วนเป็นด้านลบ ด้านทำลาย ด้านเสื่อมทราม หรือด้านเสีย ด้านเลว สิ่งเหล่านี้จะถูกผลักดันออกมา ในลักษณะคำพูดจาที่ไม่สุภาพ พูดจาหยาบคาย อากัปกิริยาท่าทางแข็งกระด้าง อย่างปราศจากการคำนึงถึงกาลเทศะที่เหมาะที่ควร และไม่มีความกระดากอายต่อสายตาผู้ใดทั้งสิ้น
เมื่อมีความรู้ความเข้าใจ หน้าที่ของจิตสำนึกและจิตใต้สำนึกแล้วเช่นนี้ ถ้าอยากให้ตนเองเป็นคนดี เป็นคนที่มีค่า มีประโยชน์ต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อชุมชนสังคมและต่อประเทศชาติจึงควรฝึกพัฒนาจิตสำนึกให้คิด พูด และการทำกระทำแต่ในสิ่งที่ดีๆ ที่ถูกต้องต่อกฎระเบียบของสังคมและกฎหมายของบ้านเมือง โดยไม่ทำให้ตนเอง ครอบครัวและผู้อื่นเดือดร้อน ชีวิตของตนเองและทุกชีวิตในครอบครัวของตน และบุคคลอื่นๆ ในสังคมก็จำอยู่รวมกันอย่างมีความสุขและสันติสุข
ต่อไปนี้จะแนะนำวิธีสั่งจิตใต้สำนึกนั้นปฏิบัติอย่างไร เขาจะปฏิบัติตามและปฏิบัติได้ทั้งสิ้น วิธีการสั่งจิตใต้สำนึกให้มีอำนาจควบคุมจิตใต้สำนึก ให้จิตสำนึกปฏิบัติตามคำสั่งจิตที่ตนเองต้องการ กระทำดังนี้
1.นั่งหรือนอนให้สงบเงียบ
2.หลับตา หายใจเข้าให้ลึกๆ ถึงศูนย์กลางกายตรงสะดือแล้วหายใจออกช้าๆ 5-10 ครั้ง
3.กล่าวคำสั่งจิตตนเองดังนี้ “ฉันมีความเชื่อและศรัทธาในพลังจิตใต้สำนึกในกายของฉัน ว่ามีพลังอำนาจและมีความสามารถเหนือจิตสำนึก สามารถควบคุมจิตสำนึกให้เชื่อง ให้อยู่ภายในอำนาจของคำสั่งจิตดังต่อไปนี้…..
จิตสำนึกมีหน้าที่เป็นดุจดังเครื่องมือกรองที่ดี มีความสามารถดักกรองสิ่งที่เลว สิ่งที่เสีย สิ่งที่เป็นพิษเป็นภัยให้โทษแก่ตัวฉันเอง คนในครอบครัวและผู้อื่น เป็นคำพูดที่สุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน ก่อให้เกิดความรักความเมตตาความสามัคคีธรรมในครอบครัวและสังคม เมื่อจิตสำนึกแสดงอากัปกิริยาท่าทางหรือพฤติกรรมใดๆ ออกไปล้วนถูกต้องต่อกาลเทศะและสถานที่และบุคคล ก่อให้เกิดมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ในเรื่องการกินการดื่มการดูดสูดดม จิตสำนึกของฉัน รักตัวฉันเอง จะไม่กินดื่ม ดูดสูดดมสิ่งที่มีสารพิษให้โทษต่อสมองและร่างกายอย่างเด็ดขาด จิตสำนึกของฉันจะอยู่ภายใต้การควบคุมของจิตใต้สำนึกของฉันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปฉันขอขอบคุณพลังจิตใต้สำนึกปฏิบัติตามคำสั่งจิตที่ได้สั่งไปแล้วทั้งหมดทั้งสิ้น”
เมื่อกระทำการสั่งจิตก่อนนอน จงกล่าวดังนี้ “ต่อไปนี้ฉันจะหลับอย่างสนิท หลับอย่างสบายตลอดคืน ฉันจะตื่นเวลา….. (กำหนดเอาเองตามความประสงค์แล้วหลับต่อไป)
โดย อ. ดร. บุญเลิศ สายสนิท A.M.D., M.H.A., N.L.P., C.Ht
Hypnotic Quality Product